พระราชบัญญัติ AI หรือ AI Act ซึ่งถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ฉบับแรกของโลก ได้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 โดยกฎหมายนี้ได้รับการอนุมัติจากสหภาพยุโรปในเดือนพฤษภาคม 2567 และจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก โดยเฉพาะบริษัทจากสหรัฐอเมริกา
สาระสำคัญของ AI Act
- การควบคุมตามความเสี่ยง: กฎหมายจะควบคุมการใช้เทคโนโลยี AI โดยพิจารณาจากระดับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสังคม โดยมีข้อบังคับที่เข้มงวดสำหรับแอปพลิเคชันที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูง เช่น ยานยนต์ไร้คนขับ หรือระบบการตัดสินใจกู้ยืมเงิน
- ห้ามการใช้งานที่ยอมรับไม่ได้: มีข้อห้ามสำหรับการใช้ AI ที่ถือว่ามีความเสี่ยงที่ไม่สามารถยอมรับได้ เช่น ระบบการให้คะแนนทางสังคมที่จัดอันดับพลเมือง
- ผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี: กฎหมายจะมีผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ เช่น Microsoft, Google, Amazon, Apple และ Meta โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบคุมการใช้ข้อมูลของพลเมืองสหภาพยุโรป
- Generative AI: โมเดล AI เอนกประสงค์ เช่น GPT ของ OpenAI และ Gemini ของ Google จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวด รวมถึงการเคารพกฎหมายลิขสิทธิ์และการเปิดเผยข้อมูลการฝึกอบรมโมเดล
- บทลงโทษ: บริษัทที่ละเมิดกฎหมายจะต้องเผชิญกับค่าปรับสูงถึง 35 ล้านยูโร หรือ 7% ของรายได้ประจำปีทั่วโลก ซึ่งสูงกว่าค่าปรับตาม GDPR
การบังคับใช้
แม้ว่าพระราชบัญญัติ AI จะมีผลบังคับใช้ในปี 2567 แต่บทบัญญัติส่วนใหญ่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2569 ซึ่งจะให้ระยะเวลาในการปรับตัวกับบริษัทที่มีการจำหน่ายระบบ Generative AI ในปัจจุบัน โดยกฎหมายนี้มีเป้าหมายในการควบคุมและจัดการผลกระทบของ AI ในระดับโลก โดยมุ่งเน้นการปกป้องสิทธิของพลเมืองและเพิ่มความโปร่งใสในการพัฒนาและใช้งาน AI
โดย ดร.นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย
ขอบคุณที่มา: https://moneyandbanking.co.th/2024/121408/