เสวนาออนไลน์ “Wellness” กับ “ความเท่าเทียม” ในการเข้าถึงของคนไทย โดย ดร.นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย และ นายคเณศ เต็มไตรรัตน์

สรุปสาระสำคัญที่ได้จากการเสวนาออนไลน์ “Wellness” กับ “ความเท่าเทียม” ในการเข้าถึงของคนไทย โดย ดร.นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย และ นายคเณศ เต็มไตรรัตน์ เมื่อวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2567 เวลา 20:00 – 21:00 น. ผ่าน Facebook Live: medlawprooffice

ธุรกิจ Wellnessในปัจจุบัน

  1. ความนิยมและการเติบโต
    ธุรกิจ wellness กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่ม high-end ที่เน้นการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดและเป็นรายบุคคล เช่น wellness centers ที่มีบริการตรวจสุขภาพแบบครบวงจรและ personalized ศูนย์เหล่านี้ได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มามองหาการตรวจสุขภาพและการเสริมสุขภาพ
  2. บริการใน Wellness Centers
    บริการของ wellness centers ส่วนใหญ่จะเน้นการตรวจสุขภาพที่เจาะจงและเป็นรายบุคคล เช่น การตรวจสารอาหารในร่างกาย การปรับปรุงสุขภาพตามความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะทำการวิเคราะห์และให้คำแนะนำในการปรับปรุงสุขภาพเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต
  3. ความหลากหลายของบริการ
    นอกจากการตรวจสุขภาพแล้ว ธุรกิจ wellness ยังครอบคลุมไปถึงบริการต่างๆ เช่น สปา, ฟิตเนสเซ็นเตอร์, รีสอร์ทเพื่อสุขภาพ, การฝึกโยคะ และการทำสมาธิ บริการเหล่านี้มักจะเน้นการบำบัดทั้งทางกายและจิตใจ รวมถึงการพักผ่อนและการเสริมสร้างสุขภาพในลักษณะของการดูแลตัวเอง
  4. ความเท่าเทียมในการเข้าถึง
    มีการตั้งคำถามถึงความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการ wellness โดยเฉพาะเมื่อธุรกิจนี้มักจะมีราคาสูง ซึ่งทำให้บางกลุ่มประชาชนไม่สามารถเข้าถึงบริการได้ การพูดถึงความเท่าเทียมในที่นี้หมายถึงการรับประกันว่าทุกคนสามารถเข้าถึงบริการพื้นฐานด้าน wellness ได้ ไม่ว่าจะมีรายได้มากน้อยเพียงใด
  5. บทบาทของรัฐ
    รัฐมีบทบาทในการส่งเสริมและจัดหาแหล่งความรู้ รวมถึงการออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ดีขึ้น เช่น การสร้างความตระหนักรู้ในด้าน wellness และการพัฒนาโครงการสนับสนุนด้านสุขภาพสำหรับประชาชนทั่วไป
  6. ปัจจัยที่มีผลต่อ Wellness
    การพิจารณาความเป็น wellness ต้องครอบคลุมปัจจัยหลายด้าน ได้แก่ อาหารที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการ, สิ่งแวดล้อมที่ดี เช่น อากาศสะอาดและน้ำสะอาด, และสุขภาพจิตที่ดี โดยการบูรณาการปัจจัยเหล่านี้เข้าด้วยกันจะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีในภาพรวม
  7. การส่งเสริม Self-Care
    การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง (self-care) เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนัก โดยไม่เพียงแต่รอความช่วยเหลือจากรัฐหรือบริการจาก wellness centers แต่ควรมีความรับผิดชอบในการเลือกวิถีชีวิตที่ดีและส่งผลดีต่อสุขภาพของตนเอง
  8. ปัญหาที่ต้องแก้ไข
    ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ wellness รวมถึงการไม่เข้าถึงข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้อง และการขาดการสนับสนุนจากภาครัฐในการพัฒนาระบบสุขภาพที่เข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งอาจต้องการการปฏิรูประบบกฎหมายและนโยบายเพื่อให้มีการส่งเสริมที่ดียิ่งขึ้น

ความสำคัญของการจัดการ wellness และบทบาทของกฎหมายและภาคเอกชนในประเทศไทย

  1. การให้ข้อมูลอย่างมีความรู้ (Informed Decision)
    การตัดสินใจในเรื่องสุขภาพควรมีข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน ซึ่งหมายถึงการให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและถูกต้อง แทนที่จะเป็นการบังคับการตัดสินใจ การให้ข้อมูลและการอบรมที่ดีสามารถช่วยให้บุคคลตัดสินใจได้ดีขึ้น
  2. ระบบการสนับสนุนในไทย
    การสนับสนุน wellness ในประเทศไทยอาจจะต้องพิจารณาทั้งการใช้กฎหมายและการจัดการในระดับชุมชน การมีระบบที่เป็นมาตรฐานพื้นฐานสำหรับทุกคนสามารถช่วยให้ทุกคนเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่ดีได้ กฎหมายอาจไม่จำเป็นต้องบังคับใช้ แต่สามารถส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูลและการบริการที่มีมาตรฐานให้ทุกคนได้
  3. บทบาทของภาคเอกชน
    ธุรกิจเอกชนและโรงพยาบาลเอกชนสามารถมีบทบาทสำคัญใน wellness โดยการสนับสนุนและจัดการบริการที่มีคุณภาพให้กับประชาชน การบูรณาการระหว่างรัฐและเอกชนสามารถช่วยให้การดูแลสุขภาพดีขึ้น ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐในเรื่อง wellness อาจช่วยให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
  4. แนวทางการพัฒนาในอนาคต
    กฎหมายควรเป็นเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริม wellness โดยการออกแบบเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงบริการสุขภาพและข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ใช่เป็นอุปสรรค การพัฒนา wellness ในประเทศไทยควรคำนึงถึงความเท่าเทียม (equity) โดยให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงบริการที่จำเป็นและมีมาตรฐาน

โดยสรุป ธุรกิจ wellnessกำลังเติบโตและมีบทบาทสำคัญในการเสริมสุขภาพของประชาชน แต่ยังมีความท้าทายในการทำให้บริการเหล่านี้เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพในระดับกว้าง เพราะ wellness เป็นเป้าหมายที่สำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสามารถบรรลุได้ผ่านการสนับสนุนจากทั้งกฎหมายและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม