“การให้ข้อมูลไม่ครบ หมอผิดไหม? แล้วถ้าคนไข้โกหก หมอจะฟ้องกลับได้รึเปล่า?” เมื่อความไม่ตรงไปตรงมา กลายเป็นจุดเสี่ยงของการรักษา
ในการรักษาโรคหรือรับบริการทางการแพทย์ หลายคนอาจมองว่า “หน้าที่” อยู่ที่หมอเป็นหลัก เช่น หมอต้องวินิจฉัยให้ถูก ผ่าตัดให้แม่น หรือจ่ายยาให้เหมาะสม แต่จริง ๆ แล้ว คนไข้เองก็มี “บทบาทสำคัญ” ไม่น้อย โดยเฉพาะในเรื่องของ การให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนและตรงไปตรงมา
แล้วถ้าสมมติเกิดเหตุการณ์ที่
- คนไข้ “ปิดบัง” ว่าตัวเองแพ้ยา
- หรือหมอ “อธิบายไม่หมด” ว่าการผ่าตัดมีความเสี่ยงอะไรบ้าง
ใครควรรับผิด? ใครสามารถฟ้องร้องได้?
บทความนี้จะพาไปรู้จักสิทธิ หน้าที่ และขอบเขตตาม “กฎหมายและจริยธรรมทางการแพทย์” ที่ควรเข้าใจก่อนเดินเข้าโรงพยาบาล
- คนไข้มีหน้าที่เปิดเผยข้อมูลไหม?
ตามกฎหมายไทย ไม่มีบทบัญญัติที่บังคับว่าคนไข้ต้องเปิดเผยข้อมูลทุกอย่าง แต่ในทางปฏิบัติ ถ้าคนไข้ปกปิดข้อมูล เช่น ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว การใช้สารเสพติด หรือแม้แต่พฤติกรรมที่เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย—สิ่งเหล่านี้อาจทำให้หมอวินิจฉัยผิด หรือจ่ายยาที่ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
แม้กฎหมายไม่ลงโทษโดยตรง แต่หากเกิดผลเสียขึ้น คนไข้อาจ เสียสิทธิในการเรียกร้องค่าชดเชย เพราะตนเองเป็นฝ่ายไม่ให้ข้อมูลครบ
- แล้วหมอล่ะ ต้องอธิบายแค่ไหน?
ในทางกลับกัน หมอไม่ได้มีหน้าที่แค่ “รักษา” แต่ยังต้อง แจ้งข้อมูลให้คนไข้เข้าใจอย่างเพียงพอ ก่อนจะทำการรักษาหรือผ่าตัดใด ๆ ตามหลัก พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มาตรา 8 และจริยธรรมแพทยสภา ซึ่งเนื้อหาครอบคลุมถึงการแจ้ง
- ชื่อโรค / แนวทางการรักษา
- ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- ทางเลือกอื่นที่มี
- ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
หากหมอไม่ได้อธิบายครบ และเกิดผลเสียขึ้น
- คนไข้มีสิทธิ “ฟ้องร้อง” ว่าขาดความยินยอมโดยรู้ข้อมูล (Informed Consent) แม้หมอจะทำการรักษาอย่างถูกต้องในเชิงเทคนิคก็ตาม
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า “ข้อมูลเพียงพอ”?
- กฎหมายไม่ได้กำหนดจำนวนบรรทัด แต่ใช้หลักว่า “คนไข้ควรเข้าใจพอที่จะตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง” ไม่ใช่แค่เซ็นใบยินยอมแบบไม่รู้เรื่อง
- ถ้าคนไข้ถามแล้วหมอไม่ตอบ / หมอพูดเร็วเกินไป / ใช้ศัพท์เทคนิคจนคนไข้ไม่เข้าใจ มีโอกาสที่ศาลจะมองว่า การให้ข้อมูลนั้น “ไม่ครบ” และ “ไม่เป็นธรรม”
แล้วทำยังไงให้ทั้งหมอและคนไข้ไม่ต้องเสี่ยง?
สำหรับ “คนไข้”
- พูดความจริงกับหมอ แม้เรื่องจะดูน่าอายหรือไม่สำคัญ
- เตรียมข้อมูลสุขภาพ เช่น ยาที่ใช้ โรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา
- ถ้าไม่เข้าใจ ให้ถามซ้ำ หรือลองขอให้หมอเขียนหรือวาดให้ดู
สำหรับ “หมอ”
- อธิบายให้เข้าใจง่าย ไม่เร่งรีบเกินไป
- ใช้ภาษาที่เหมาะสมกับผู้รับบริการ
- จดบันทึกในเวชระเบียนว่า “ได้แจ้งข้อมูลครบถ้วนแล้ว” เพื่อป้องกันภายหลัง
สรุป เรื่องง่าย ๆ ที่อาจกลายเป็นคดีใหญ่
การรักษาทางการแพทย์ไม่ใช่แค่เรื่องของยาและเครื่องมือ แต่คือ การสื่อสารที่ดีระหว่างคนสองฝ่าย การพูดความจริงอย่างครบถ้วนจากคนไข้ และการให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาจากแพทย์ คือสองเสาหลักที่จะช่วยกันสร้าง “ความปลอดภัยในการรักษา” และลดปัญหาทางกฎหมายที่ไม่จำเป็นในภายหลัง
เพราะบางครั้ง… ความเงียบ อาจเสียงดังที่สุดในห้องพิจารณาคดี